Content is King ยังจริงอยู่ไหม? ในยุคที่ใครๆ ก็สร้างคอนเทนต์ได้เอง

Content is King ยังจริงอยู่ไหม? ในยุคที่ใครๆ ก็สร้างคอนเทนต์ได้เอง

ในสายงาน Digital Marketing เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยได้ยินประโยคที่บอกว่า ‘Content is King’ กันมาบ้าง

เราต่างก็ได้เรียนรู้กันมาว่า คอนเทนต์คือหัวใจสำคัญในการสื่อสาร โดยเฉพาะในการสื่อสารการตลาด เพราะเป็นหนึ่งใน ‘เครื่องมือในการสื่อสาร’ ที่จะช่วยบอกเราว่าแบรนด์เป็นใคร ทำอะไร น่าสนใจอย่างไร

เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าคอนเทนต์มีความสำคัญ แต่คอนเทนต์ยังถือว่าเป็นราชาอยู่ไหม ในยุคที่มีคอนเทนต์เป็นล้านๆ ให้คนเสพในทุกๆ วัน

แต่ก่อนที่จะไปหาคำตอบ มาย้อนดูที่มากันก่อนว่าใครเป็นคนพูด แล้วพูดเมื่อไหร่

Content is King มาจากไหน

Content is King 1

Content is King คือชื่อบทความที่ Bill Gates ได้เขียนไว้ตั้งแต่ปี 1996 ถึงความสำคัญของคอนเทนต์ ที่จะสามารถสร้างเงินได้จริงจากสื่อออนไลน์ ไม่ต่างอะไรจากการที่สื่อเก่าอย่าง ทีวี วิทยุ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ ที่สร้างเงิน สร้างอาชีพ สร้างความเฟื่องฟูทางเศรษฐกิจมามากมาย 

เขาได้กล่าวไว้ว่า ในยุคหนึ่งนายทุนเจ้าของช่องทีวีและวิทยุ ทำหน้าที่ในการสร้างและกำหนดคอนเทนต์ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร ข้อมูล หรือความบันเทิง ไปยังผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

แต่ต่อมาเมื่ออินเทอร์เน็ตถือกำเนิดขึ้น ต้นทุนในผลิตคอนเทนต์ต่างๆ ก็จะถูกลง ซึ่งเขามองว่านี่จะกลายเป็นโอกาสสำคัญ ที่ทำให้บริษัทไหนๆ ก็สามารถสร้างคอนเทนต์ของตัวเองได้ ไม่มีบริษัท (หรือแบรนด์) ไหนเล็กเกินไปในการสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง

ซึ่ง Bill Gates ได้สรุปไว้ด้วยว่าคนหรือแบรนด์ที่จะสำเร็จในยุคแห่งอินเทอร์เน็ตนี้ ก็คือผู้ที่สามารถใช้อินเทอร์เน็ตให้กลายเป็นตลาดของไอเดีย ประสบการณ์ และคอนเทนต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์นั้นเอง

Contentยังสำคัญอยู่ไหม ในปัจจุบัน ?

ในปัจจุบัน นักการตลาดหลายๆ สำนัก ต่างก็ยังบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าคอนเทนต์ยังคงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในโลกของ Digital Marketing ที่ทุกคนสามารถเสพสื่อ เสพข่าวสารได้ตลอดเวลา โดยอาจจะสรุปถึงความสำคัญของคอนเทนต์ได้ดังนี้

1. คอนเทนต์ทำให้แบรนด์เป็นที่จดจำ

คอนเทนต์ถือว่าเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสูงมากที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย สามารถทำให้กลุ่มเป้าหมายรักคุณ และยังสามารถทำให้คุณขึ้นไปอยู่หน้าแรกของ Google Search ได้

คอนเทนต์ที่ดีจะทำให้แบรนด์ของคุณได้รับความเชื่อใจ กลายเป็นที่ชื่นชอบ และเป็นที่พึ่งพิงของลูกค้าได้ โดยเฉพาะในโลกอินเทอร์เน็ตที่ข้อมูลสามารถส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว หากคอนเทนต์ของคุณดีพอจนลูกค้าพูดต่อ แบรนด์คุณก็จะได้รับการจดจำไปด้วย 
จากการสำรวจพบว่า ผู้คนกว่า 68% บนอินเทอร์เน็ตให้ความสนใจในการอ่านข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์ที่พวกเขาใช้และสนับสนุน นอกจากนี้ยังพบว่าเมื่อต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์หรือสินค้าใดๆ กว่า 80% จะค้นพบจากคอนเทนต์ที่แบรนด์สร้างขึ้นเอง 

แต่การสร้างคอนเทนต์ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่จดจำนั้นไม่ได้เกิดขึ้นได้ในข้ามคืน มันต้องใช้ความพิถีพิถัน ความทุ่มเท รวมไปถึงความต่อเนื่องด้วย 

2. คอนเทนต์ช่วยบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า

หลายคนนึกไม่ถึงว่าคอนเทนต์ที่ถูกต้อง สามารถช่วยให้คุณบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (Customer Relationship Management) ได้ดีขึ้นด้วย

คอนเทนต์ที่มีคุณภาพสูงจะช่วยสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างลูกค้าใหม่ (New Customer) ในขณะที่คอนเทนต์ ที่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์น่าสนใจ จะช่วยสานสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม และช่วยให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการซ้ำได้จนกลายเป็นลูกค้าประจำได้ (Repeat Customers)

ลูกค้าประจำนี่เอง ที่จะมีส่วนสำคัญในการสร้าง Brand Loyalty และส่งต่อข้อมูลเชิงบวกของแบรนด์ต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นผลพลอยได้ของการสร้างคอนเทนต์เช่นกัน 

3. Algorithm รักคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกของอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบัน Algorithm กลายมาเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด ในการกำหนดว่าผู้คนบนแพลตฟอร์มนั้นๆ จะได้รับ ‘สาร’ แบบใด

หลายคนมองว่าการเข้ามาของ Algorithm อาจจะทำให้การทำคอนเทนต์ต้องเน้นที่ความเร็ว ความเยอะ (ContentQuantity) เพื่อให้ Algorithm มองเห็นคอนเทนต์ของเราได้ง่ายๆ 

แต่แท้จริงแล้ววิธีการทำงานของ Algorithm ที่เปรียบเสมือน Gatekeeper ผู้คอยคาดเดาและคัดเลือกว่ากลุ่มเป้าหมายแต่ละคนต้องการคอนเทนต์แบบไหน ผ่านพฤติกรรมการเสพคอนเทนต์ที่ผ่านมา กลับทำให้ ‘คอนเทนต์คุณภาพ’ (ContentQuality) นั้นมีความสำคัญมากกว่าเดิม

‘คอนเทนต์คุณภาพ’ นั้นมีคนให้คำนิยามมากมาย แต่เราอาจจะสรุปได้รวมๆ ว่าหมายถึงคอนเทนต์ที่มีประโยชน์ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ยูนีกไม่เหมือนใคร และเป็นที่น่าสนใจในตัวเอง

แต่ในโลกที่ทุกๆ วันมีคนโพสต์บทความลงเว็บไซต์มากกว่า 2 ล้านบทความ ในทุกๆ 1 นาทีจะมีคนโพสต์ Facebook กว่า 2.5 ล้านโพสต์ คอนเทนต์ที่มีคุณภาพอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพออีกต่อไป แต่ต้องมี Context ด้วย!!

Context is Queen

Content is King Context is Queen

Context ถ้าแปลเป็นไทยจะหมายความว่า ‘บริบท’ แต่สำหรับการทำ Digital Marketing แล้ว มันคือ ‘การส่งคอนเทนต์ที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ ให้กับคนที่ใช่’

เมื่อเรามี ‘คอนเทนต์คุณภาพ’ ที่มีประโยชน์ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย ยูนีกไม่เหมือนใคร ก็ใช่ว่าเราจะโพสต์ลงบนโลกออนไลน์เมื่อไรก็ได้ 

แต่เรายังต้องวิเคราะห์ว่ากลุ่มเป้าหมายของเรานั้นเสพสื่อแบบใด เค้าชอบอ่าน ชอบฟัง หรือชอบดูวิดีโอ อยู่ในแพลตฟอร์มไหน เขาชอบเสพสื่อเมื่อไหร่ ซึ่ง Strategic Partner หรือ Problem Solver Agency ก็มารถเป็นอีกหนึ่งผู้ช่วยวิเคราะห์ ‘Context’ หรือ ‘บริบท’ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้ง

สุดท้ายแล้ว Content is still King ได้ แม้ในโลกของ Digital Marketing ที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว

____________
Reference :
https://socialplanner.io/blog/content-is-king/
https://maxideastudio.com/blog/5-reasons-why-content-is-king/
https://www.entrepreneur.com/starting-a-business/4-reasons-why-content-is-king/437023
_____________
อ่านบทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ เพิ่มเติม :

ถอดรหัส Marketing ในซีรีส์ “สาธุ”
Personal Branding : เมื่อคนไม่เชื่อคำโฆษณา แต่สนใจว่า “ใครพูด”
10 วิธีตั้งชื่อแบรนด์อย่างไรให้เหมาะสมและยั่งยืน?
4 Steps — เลือกชื่อแบรนด์ที่เหมาะสม

Related Stories